หน้าเว็บ

วันเสาร์ที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2561

เมืองโบราณฮอยอัน (HOI AN ANCIENT TOWN)


เมืองโบราณฮอยอัน

(HOI AN ANCIENT TOWN)


สวัสดีค่ะ บล็อกนี้ก็เป็นบล็อกที่สามแล้วหลังจากที่เราได้ทำการเปิดบล็อกมา ในวันนี้เราจะมาพูดถึง แหล่งศิลปะ โบราณคดี เอเชียอาคเนย์ในประเทศเวียดนาม ที่เก่าที่เดิมที่เราเคยนำเสนอไปในบล็อกที่หนึ่ง แต่เราจะเปลี่ยนสถานที่ใหม่จากหมู่โบราณสถานเมืองเว้ มาเป็นเมืองโบราณฮอยอันที่มีความสวยงามไม่แพ้กัน


ความเป็นมา
ในสมัยของอาณาจักรจามปา บริเวณนี้เคยเป็นเมืองท่าบนปากแม่น้ำทูโบน ซึ่งมีชื่อว่า ไฮโฟ โดยเป็นศูนย์กลางทางการค้าในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 16-17 มีชาวต่างชาติมาตั้งถิ่นฐานและค้าขายในเมืองนี้เป็นจำนวนมาก ทั้งชาวจีน ญี่ปุ่น ดัตช์ และอินเดีย เดิมทีเมืองนี้ถูกแบ่งออกเป็นสองฝั่งโดยมีคลองสายหนึ่งคั่นอยู่กลางเมือง มีสะพานญี่ปุ่นทอดข้ามคลองเพื่อกั้นแบ่งเขตชุมชนของชาวญี่ปุ่นที่อีกฝั่งหนึ่งของคลอง ตัวสะพานสร้างโดยชาวญี่ปุ่น มีลักษณะสถาปัตยกรรมเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว เมืองโบราณฮอยอันตั้งอยู่ที่ประเทศเวียดนาม เมืองนี้ถือว่าเป็นตัวอย่างของเมืองท่าในเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ ที่สร้างตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ ๑๕-๑๙ ซึ่งเมืองนี้ได้รับการอนุรักษ์เป็นอย่างดี การวางผังถนนและอาคารแต่ละอาคารสะท้อนให้เห็นถึงอิทธิพลของพื้นเมืองและต่างประเทศเป็นอย่างดี ซึ่งได้ผสมผสานกันไว้ได้อย่างมีเอกลักษณ์
ในสมัยต้นกรุงศรีอยุธยา ศตวรรษที่ 19 ชื่อของฮอยอันได้รับการบันทึกลงในการเดินเรือของชาติตะวันตกในชื่อ ไฟโฟ หรือ ไฮโป และมีชาวต่างชาติเดินเรือเข้ามามากมาย จนฮอยอันกลายเป็นเมืองท่าที่สำคัญแห่งหนึ่งของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเป็นศูนย์กลางการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมระหว่างตะวันออกและตะวันตก จนเข้าสู่ราวครึ่งหลังของศตวรรษที่ 19 เมืองแห่งนี้ก็โดนเผาราบคาบจากการสู้รบช่วงกบฏไตเซินเหวียนอัน ภายหลังเมื่อเข้าสู่ยุคเริ่มต้นราชวงศ์เหวียน เมืองฮอยอันก็ได้รับการสร้างใหม่ ซึ่งเป็นต้นแบบของอาคารบ้านเรือนอายุสองร้อยกว่าปีอย่างที่เห็นในปัจจุบัน
เมื่อเข้าสู่ปลายศตวรรษที่ 19 แม่น้ำทูโบนเริ่มตื้นเขิน เนื่องจากตะกอนโคลนเลนสะสมจนไม่อาจนำเรือใหญ่เข้ามาได้ เมืองดานังจึงถูกสร้างขึ้นมาเป็นเมืองท่าแห่งใหม่แทนที่ฮอยอัน นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาเมืองฮอยอันก็เริ่มลางเลือนไปตามกาลเวลา จนถึงปี พ.ศ. 2459 เส้นทางรถไฟระหว่างฮอยอันและดานังได้รับความเสียหายจากพายุและไม่ได้รับการซ่อมแซมให้ดีดังเดิม เมืองแห่งการค้าที่สำคัญซึ่งเคยต้อนรับชาวต่างชาติจึงยุบลง
ปี พ.ศ. 2542 องค์กานยูเนสโกก็ได้ประกาศให้ฮอยอันเป็นเมืองมรดกโลกทางวัฒนธรรม เพราะความงดงามและเก่าแก่ของบ้านเมือง รวมทั้งเอกลักษณ์อันโดดเด่นที่ยังคงสืบทอดมาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งนั่นทำให้ผู้คนหลั่งไหลเข้ามายังเมืองแห่งนี้ ประดุจน้ำในแม่น้ำทูโบนที่ไหลหล่อเลี้ยงผู้คนไม่เคยเปลี่ยนแปลง

ที่ตั้ง

เมืองฮอยอัน อยู่ห่างจากเมืองท่าดานังทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ระยะทางประมาณ 30 กิโลเมตร ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำทูโบน ห่างจากชายฝั่งทะเลเข้ามาตอนในระยะทางไม่กี่กิโลเมตร เมืองเก่าโบราณที่เต็มไปด้วยเสน่ห์แห่งนี้ ครั้งหนึ่งในอดีตเคยเป็นเมืองที่มีความเจริญรุ่งเรืองมาก ในบริเวณที่เคยเป็นไดเวียดกลางภายใต้การปกครองของขุนนางเหวียน และปรากฏอยู่ในแวดวงของนักเดินทางตะวันตกในศตวรรษที่ 17 และ 18 แรกเริ่มเมืองฮอยอันเคยเป็นเมืองท่าชายทะเลในอาณาจักรจามปา เรียกกันในชื่อว่า ได๋เจียน โดยมีเมืองหลวงอยู่ที่ตราเกียว และมีศานสถานอันศักดิ์สิทธิ์อยู่ที่หมี่เซิน ซึ่งอยู่ไม่ห่างจากฮอยอันมากนัก
ฮอยอัน เป็นเมืองที่ถูกแบ่งออกเป็นสองฝั่งโดยมีคลองคั่นกลาง มีสะพานญี่ปุ่นทอดข้ามคลองเพื่อกั้นแบ่งเขตชุมชนของชาวญี่ปุ่นที่อีกฝั่งหนึ่งของคลองจากชุมชนจีน สะพานดังกล่าวสร้างโดยชาวญี่ปุ่น มีลักษณะสถาปัตยกรรมเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดยมีหลังคาเหนือสะพาน นอกจากนี้ ยังมีวัดญี่ปุ่นตั้งอยู่ด้านขวามือของตัวสะพาน ทำให้สะพานดังกล่าว มีชื่ออีกชื่อหนึ่งว่าสะพานวัด หรือ Pagoda Bridge


สะพานวัดหรือสะพานญี่ปุ่น

ความสำคัญ
เมืองโบราณฮอยอันเป็นเมืองขนาดเล็ก ที่เป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยว มีชื่อเสียงในด้านของเมืองมรดกโลกที่ยังมีลมหายใจ เสน่ห์ของเมืองนี้คือตึกเก่าสีเหลืองสวยสไตล์โคโลเนียล ที่อนุรักษ์เอาไว้ให้คงเอกลักษณ์เอาไว้  วิถีชีวิตที่เรียบง่ายและสวยงามของชาวเมืองฮอยอัน ตลอดจนสิ่งอำนวยความสะดวกที่มีพร้อมสรรพสำหรับนักท่องเที่ยว
นอกจากนี้เมืองโบราณฮอยอันยังเป็นเมืองที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกที่สำคัญอีกแห่งหนึ่ง ที่มีอิทธิพลช่วยผลักดันให้เกิดการพัฒนาในด้านการออกแบบทางสถาปัตยกรรม อนุสรณ์สถาน ประติมากรรม สวน และภูมิทัศน์ ตลอดจนการพัฒนาศิลปกรรมที่เกี่ยวข้องหรือการพัฒนาการตั้งถิ่นฐานของมนุษย์ซึ่งได้เกิดขึ้นในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง หรือบนพื้นที่ใดๆ ของโลกซึ่งทรงไว้ซึ่งวัฒนธรรม
เมืองโบราณฮอยอัน มีความโดดเด่นในด้านวัฒนธรรมมนุษย์ ขนบธรรมเนียมประเพณีแห่งสถาปัตยกรรม วิธีการก่อสร้าง หรือการตั้งถิ่นฐานของมนุษย์ ซึ่งเสื่อมสลายได้ง่ายจากผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงทางสังคมและวัฒนธรรมตามกาลเวลา

สถานที่สำคัญ
1.     สะพานญี่ปุ่น (Japanese Covered Bridge)

สะพานญี่ปุ่น เป็นสัญลักษณ์อย่างหนึ่งของเมืองฮอยอันได้รับการก่อสร้างโดยชุมชนชาวญี่ปุ่นเมื่อ 400 กว่าปีที่แล้ว รูปทรงโค้งของสะพานและหลังคามุงกระเบื้องสีเขียวและเหลืองเป็นคลื่น ตรงกลางสะพานมีเจดีย์ทรงจัตุรัสที่สร้างอุทิศให้แก่ดั๊กเดและตรันหวู ก่อนเดินข้ามสะพานด้านซ้ายมือจะมีรูปปั้นสุนัขกำลังนั่ง และเมื่อข้ามไปแล้วก็จะเจอกับลิงอีกตัว นับเป็นสิ่งที่ช่างสมัยก่อนแสดงให้เห็นถึงระยะเวลาในการก่อสร้าง สะพานแห่งนี้ เมื่อข้ามสะพานมายังอีกฟากหนึ่งของเมือง คุณจะพบเห็นบ้านเรือนเก่าสไตล์ญี่ปุ่นแท้ๆ ตลอดจนร้านสไตล์อาร์ตแกลอรี่ ริมถนนคนเดินสองฟากฝั่งถนนให้คุณได้เลือกซื้อเลือกชม

2.     สมาคมฟุกเกี๋ยน (Phouc Kien Assembly Hall)

ถนนสายตรันฝู นอกจากจะเป็นศูนย์กลางของการเที่ยวชมเมืองโบราณฮอยอันแล้ว ยังเป็นศูนย์รวมของชาวจีนที่อพยพเข้ามาในช่วงปี พ.ศ.2388-2428 จะเห็นได้จากบ้านเก่าแก่ประจำตระกูลกว่า 20 หลัง ตลอดจนจั่วฟุกเกี๋ยนที่สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2335 ซึ่งถือเป็นสามคมชาวจีนที่ใหญ่และเก่าแก่ที่สุดของเมืองฮอยอัน ใช้สำหรับเป็นที่พบปะของคนหลายรุ่นที่อพยพมาจากฟุกเกี๋ยนที่มีแซ่เดียวกัน และยังใช้เป็นที่ระลึกถึงถิ่นกำเนิดและบูชาบรรพบุรุษของตน และภายในยังเป็นที่ตั้งของวัดที่สร้างขึ้น เพื่ออุทิศให้กับลัทธิของพระนางเทียนเห่า มีจุดเด่นอยู่ที่งานไม้แกะสลัก ลวดลายสวยงามน่าชมและหากคุณไม่เร่งรีบไปไหน สองฟากฝั่งของถนนตรันฝูยังเต็มไปด้วยร้านขายสินค้าทำมือให้นักท่องเที่ยวได้เลือกซื้อกลับไปเป็นของที่ระลึก ทั้งงานแกะสลักไม้ โคมไฟจากผ้าไหมหลากสี ภาพวาดที่สะท้อนวิถีชีวิตที่เรียบง่ายของชาวฮอยอัน ตลอดจนร้านอาหารหลากสัญชาติ หลายบรรยากาศ

3.     บ้านเลขที่ 101 (Old House No.101)

เป็นบ้านประจำตระกูลเก่าแก่ที่ยังคงงดงาม มีให้เลือกชมอยู่หลายหลัง บนถนนสายนี้มีบ้านประจำตระกูลเก่าแก่ให้เลือกเข้าชมทั้งหมด 3 หลังด้วยกัน เริ่มจาก บ้านเลขที่ 22 บ้านเก่า 2 ชั้น ของชาวจีนที่เข้ามาติดต่อเพื่อซื้อขายอบเชย สร้างมาเกือบ 90 ปีแล้ว ภายในแบ่งเป็น 2 ช่วง คือ บ้านไม้และบ้านปูนเก่าสร้างอย่างประณีต เป็นครอบครัวใหญ่ที่เปิดให้เข้าเยี่ยมชมได้ และที่คุณพลาดไม่ได้คือ บ้านเลขที่ 101 เป็นบ้านของจีนในตระกูล Tan Ky นับเป็นบ้านไม้ที่เก่าแก่และสวยงามที่สุดของเมืองฮอยอัน สร้างขึ้นมาเมื่อ 75 ปีที่แล้ว และอยู่กันมา 5 ชั่วอายุคน ภายในแบ่งเป็นสัดส่วนอย่างลงตัว ตั้งแต่ ห้องสมุดสมัยก่อน ห้องรับแขก และห้องครัว และบ้านเลขที่ 77

4.     หุบเขาหมี่เซิน มรดกโลก

ที่ตั้ง : อยู่ห่างจากเมืองดานังไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ระยะทางประมาณ 70 กิโลเมตร และอยู่ห่างจากเมืองฮอยอันมาทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ระยะทางประมาณ 50 กิโลเมตร
การเดินทาง : ท่านสามารถหาซื้อแพกเกจทัวร์ได้จากบริษัทเมืองดานังหรือฮอยอันจะสะดวกกว่าเดินทางไปด้วยตัวเอง ราคาไป-กลับ ประมาณ 4 US$ แต่ถ้าเลือกนั่งเรือกลับก็ต้องเพิ่มเงินอีกนิดหน่อย
นักโบราณคดีเชื่อว่า วัฒนธรรมของจาม  มีพื้นฐานมาจากวัฒนธรรมซาหินห์ของคนยุคก่อนประวัติศาสตร์ ในแผ่นดินอันนัมและผสานเข้ากับวัฒนธรรมอินเดียที่ขึ้นฝั่งมาทำการค้าเมื่อครั้งอดีต
วัฒนธรรมจาม มีความเจริญรุ่งเรืองยาวนานถึงพันกว่าปี มีศูนย์กลางอยู่ที่หุบเขาหมี่เซิน โดยเริ่มต้นจากพระเจ้าภัทรวรมันที่ 1 ในคริสต์ศตวรรษที่ 4 อาณาจักรจามรุ่งเรืองครอบครองอาณาเขตตั้งแต่ทางตอนใต้ของฮานอยไปจนถึงเวียดนามใต้และภาคตะวันออกของกัมพูชา ตั้งแต่เริ่มต้นจนสิ้นสุดอาณาจักรจามปา มีกษัตริย์ปกครอง 78 พระองค์ ใน 14 ราชวงศ์ ก่อนเข้าสวามิภักดิ์กับอาณาจักรไดเวียดเมื่อคริสต์ศตวรรษที่ 15 และถือเป็นอันสิ้นสุดลงของอาณาจักรแห่งความยิ่งใหญ่
ร่องรอยแห่งอารยธรรมของอาณาจักรจามปา มีอยู่ทั่วไปในอุษาคเนย์ ซึ่งได้สร้างปราสาทเพื่อถวายพระศิวะมากมาย เนื่องจากชนชาติดังกล่าวนับถือศาสนาฮินดูอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะภายในบริเวณหมี่เซินมีศาสนสถานที่สร้างด้วยอิฐกว่า 70 แห่ง แต่ที่โดดเด่นสุด คือ ปราสาททับจั่ว แต่ภายหลังที่เกิดสงครามเวียดนาม โบราณสถานจำนวนมากถูกทำลายลงจากการทิ้งระเบิดของเครื่องบิน B52 ของอเมริกา แต่อย่างไรก็ดี โบราณสถานที่หลงเหลืออยู่ในปัจจุบันก็ยังงดงามควรค่าแก่การเยี่ยมชม เพราะนับเป็นโบราณสถานในศาสนาฮินดูที่เก่าแก่และสมบูรณ์ที่สุดในแหลมอินโดจีน ที่สามารถสะท้อนความรุ่งเรืองแห่งอารยธรรมของจามได้ดีที่สุด จนได้รับเลือกจากยูเนสโกให้เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมในปี พ.ศ. 2542

5.     หาดเกาได๋ หรือ หาดจีน (Cao Dai Beach)
นอกจากบ้านเรือนสวยสไตล์โคโลเนียลที่มีให้เยี่ยมชมย่านเก่าใจกลางเมืองฮอยอันแล้ว ถัดมาไม่ไกลจากตัวเมืองฝั่งตรงขามกับแม่น้ำทูโบน คุณจะได้พบกับชายหาดสวยชื่อ เกาได๋ ที่ทอดยาวต่อเนื่องมาจากเมืองดานัง หรือที่ชาวฮอยอันเรียกว่า หาดจีน เป็นชายหาดที่มีเนื้อทรายละเอียด น้ำทะเลใสสะอาด บรรยากาศเงียบสงบ มีกิจกรรมทางน้ำมากมายให้เลือกสรร เหมาะทั้งลงเล่นน้ำและชมวิวทิวทัศน์ บริเวณฝั่งตรงข้ามชายหาดเต็มไปด้วยโรงแรมระดับดีให้คุณได้เลือกพักชมวิวทะเล ตลอดจนร้านอาหารให้เลือกลิ้มรส นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่หลังจากเที่ยวชมเมืองเก่าฮอยอันจนครบแล้ว ก็มักเปลี่ยนบรรยากาศมาพักผ่อนหย่อนใจที่หาดทรายสวยแห่งนี้

6.     ศูนย์วัฒนธรรมและหัตถกรรม
(Handicraft workshop and traditional music shop)
สิ่งที่โดดเด่นที่สุดภายในศูนย์วัฒนธรรมและหัตถกรรมแห่งนี้คือ โรงละครหลังเล็ก ที่จัดการแสดงพื้นเมืองที่หาดูได้ยากของชาวเวียดนาม ตั้งแต่การจับปลา การเกี่ยวข้าว ท่ามกลางศิลปินนักร้อง นักดนตรี ที่เป็นเอกลักษณ์ของชาวเวียดนาม รอบจัดแสดงคือ วันอังคาร-อาทิตย์ เวลา 10.00 น. หรือ เวลา 15.00 น. มีการแสดง 2 รอบต่อ 1 วันเท่านั้น
นอกจากนี้ยังเป็นศูนย์รวมงานฝีมือของเมืองฮอยอัน ตั้งแต่งานแกะสลักไม้ งานแกะสลักหินอ่อน ที่ยินดีให้คุณได้ชมในทุกขั้นตอนของการผลิต และสมารถเลือกซื้อกลับไปเป็นชองที่ระลึกได้ในราคาย่อมเยา

7.     พิพิธภัณฑ์เซรามิก
(Museu of Trading Ceramics)
ที่ตั้ง อยู่บนถนนสายตรันฝู ตรงบ้านเลขที่ 80 ภายในบ้าน 2 ชั้นหลังนี้ สร้างจากไม้เนื้อแข็งที่มีอายุเก่าแก่กว่า 80 ปี โดยบรรพบุรุษดั้งเดิมเป็นชาวจีนฟุกเกี๋ยนที่เข้ามาติดต่อซื้อขายยาสมุนไพร และไม่ได้กลับไปยังถิ่นฐานเดิม ปัจจุบันจึงดัดแปลงบ้านไม้เก่าแก่หลังนี้ให้เป็นพิพิธภัณฑ์เซรามิกที่จัดแสดงโบราณวัตถุเอาไว้อย่างเป็นหมวดหมู่ตั้งแต่ ถ้วย ขาม เครื่องใช้ไม้สอยสมัยโบราณ รวมทั้งชามสังคโลกของไทย สะท้อนให้เห็นถึงความเป็นมาของเมืองมรดกโลกริมแม่น้ำทูโบนที่เต็มเปี่ยวด้วยเสน่ห์แห่งนี้ นอกจากจะได้ชมถ้วยชามเซรามิกเก่าแก่แล้ว จากบริเวณระเบียงบ้านชั้น 2 ยังสามารถมองลงมายังถนนหน้าบ้าน เพื่อชมเมืองฮอยอันในมุมสูงได้อีกด้วย

8.     แม่น้ำทูโบน (Thu Bon River)
แม่น้ำทูโบนเป็นแม่น้ำสายที่มีความสำคัญตั้งแต่สมัยโบราณ ก่อนที่ฮอยกันยังเป็นเมืองท่าสำคัญที่สุดแห่งหนึ่งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีชาวต่างชาติจำนวนมากล่องเรือเข้ามาททำการค้าขายแลกเปลี่ยนสินค้าที่เมืองแห่งนี้ ทำให้ฮอยอันเป็นเสมือนศูนย์กลางของการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมระหว่างตะวันออกกับตะวันตก แต่ภายหลังที่แม่น้ำเริ่มตื้นเขิน เรือเดินสินค้าไม่สามารถมาจอดเทียบท่าได้ เมืองดานังจึงถูกสร้างขึ้นมาแทนที่ฮอยอัน แต่สายน้ำทูโบนแห่งนี้ยังคงทำหน้าที่หลักไหลหล่อเลี้ยงชาวฮอยอันอยู่เรื่อยมา เห็นได้จากชาวบ้านที่ยังคงออกหาปลาในแม่น้ำ และใช้แม่น้ำสายนี้เป็นเส้นทางสัญจรไปมาหาสู่กันระหว่างสองฟากฝั่งน้ำ การได้มาเดินเที่ยวชมริมแม่น้ำทูโบน จึงเต็มแด้วยเสน่ห์ของกาลเวลาที่เชื่อมต่อระหว่างอดีตและปัจจุบันเข้าไว้ด้วยกัน ตั้งแต่บ้านเรือนสไตล์โคโลเนียลมรดกตกทอดริมฝั่งแม่น้ำทูโบน หมู่บ้านชาวประมงที่หาดูได้ยาก ศิลปะที่ผสมผสานที่แสดงผลงานศิลปะไว้ภายในเรือ ตลอดจนร้านอาหารสองบรรยากาศที่มีให้คุณเลือกสรรทั้งร้านขายน้ำผลไม้แบบเรียบง่ายริมฝั่งแม่น้ำ หรือร้านอาหารสมัยใหม่หลายสัญชาติที่อยู่ฝั่งตรงกันข้าม และถ้าคุณต้องการสัมผัสมนต์เสน่ห์ของสายน้ำทูโบนอบ่างใกล้ชิดแล้ว ก็มีบริการล่องเรือชมวิวทิวทัศน์และวิถีริมฝั่งน้ำให้คุณเลือกใช้บริการเช่นกัน


การเดินทางภายในตัวเมืองฮอยอัน
ทางบก : ด้วยความที่ฮอยอันเป็นเมืองเล็กๆ ถนนเส้นหลักก็มีเพียงไม่กี่เส้น สถานที่ท่องเที่ยวแต่ละแห่งก็อยู่ไม่ไกลกัน การเดินเท้าเที่ยวชมเมืองจึงเป็นวิธีหนึ่งที่สะดวก เพราะคุณสามารถหยุดแวะชมสถานที่ หรือเลือกซื้อสินค้าที่ระลึกได้อย่างสะดวกสบาย ใช้เวลาเพียงวันเดียวก็เที่ยวครบทั่วเมืองเก่าแล้ว หรือจะเลือกใช้บริการจักรยานที่มีให้เช่า ก็ทำได้เช่นกัน แต่คุณอาจต้องใช้ความระมัดระวังสักหน่อย เพราะถนนแต่ละเส้นค่อนข้างเล็ก ผู้คนทั้งนักท่องเที่ยวและชาวเมืองฮอยอันก็มีจำนวนมาก ส่วนผู้ที่ต้องการความสะดวกสบายและประหยัดเวลาในการเที่ยวชม แนะนำให้ใช้บริการสามล้อถีบที่มีให้บริการอยู่ทั่วทั้งเมือง ราคาก็ตามแต่ตกลงกันครับ
ทางน้ำ : หลังจากที่เที่ยวตัวเมืองฮอยอันจนครบแล้ว การเปลี่ยนบรรยากาศมานั่งล่องเรือแม่น้ำทูโบน ก็เป็นอีกหนึ่งโปรแกรมท่องเที่ยวที่น่าสนใจ มีให้เลือกทั้งแบบล่องเรือชมธรรมชาติสองฟากฝั่ง โดยใช้เวลาล่องไปกลับประมาณ 1 ชั่วโมง ราคาประมาณ 2 ดอลล่าต่อคน แต่สำหรับผู้ที่มาเป็นกลุ่มตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป แนะนำให้เช่าเหมาลำ เพราะคุณสามารถต่อรองกับคนขับให้พาไปเยี่ยมชมหมู่บ้านหัตถกรรม หมู่บ้านชาวประมง ตลอดจนวิถีริมฝั่งน้ำที่หาดูได้ยาก โดยเรือจะมีให้บริการอยู่บริเวณท่าเรือข้ามฟากใกล้ๆกับตลาดเก่าในเมืองฮอยอัน
สรุป เมืองโบราณฮอยอันเป็นเมืองที่มีความสำคัญอีกเมืองหนึ่งของเวียดนามและของโลก เป็นเมืองที่ถือว่ามีอิทธิพลในด้านการออกแบบ สถาปัตยกรรม ประติมากรรม หรือทางด้านศิลปะและสถานที่ต่าง ๆ มีความคงไว้ซึ่งวัฒนธรรม ขนบธรรมเนียมประเพณี ที่เป็นเอกลักษณ์ที่ไม่ได้ศูนย์หายไปตามการเวลา เป็นสถานที่ที่เหมาะแก่การไปเยี่ยมชมและศึกษาหาความรู้เป็นอย่างมาก

รูปสถานที่ต่าง ๆ


















.............................................................................................

บรรณานุกรม
มหานครอาเซียน. (ม.ป.ป.). เมืองโบราณฮอยอัน [ระบบออนไลน์]. สืบค้นเมื่อ 16 กันยายน 2561 สืบค้นจาก http://www.uasean.com/kerobow01/262
ลำเจียก สองสีดา. (ม.ป.ป.). มรดกโลกในเวียดนาม 2 : เมืองโบราณฮอยอัน [ระบบออนไลน์]. สืบค้นเมื่อ 16 กันยายน 2561 สืบค้นจาก http://aseannotes.blogspot.com/2014/07/2.html
วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี. (ม.ป.ป.). ฮอยอัน [ระบบออนไลน์]. สืบค้นเมื่อ 16 กันยายน 2561 สืบค้นจาก http://th.wikipedia.org/wiki/
โอเชี่ยนสไมล์ทัวร์. (ม.ป.ป.). ข้อมูลท่องเที่ยวประเทศเวียดนาม [ระบบออนไลน์]. สืบค้นเมื่อ 16 กันยายน 2561 สืบค้นจาก http://www.oceansmile.com/Vietnam/HoiAn.htm
ladybug. (2557). แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวในเมืองฮอยอัน เวียดนาม. [ระบบออนไลน์]. สืบค้นเมื่อ 16 กันยายน 2561 สืบค้นจาก https://travel.mthai.com/world-travel/95329.html
Thaiza. (2553). “เสน่ห์แห่งเมืองโบราณฮอยอัน” [ระบบออนไลน์]. สืบค้นเมื่อ 16 กันยายน 2561 สืบค้นจาก http://travel.thaiza.com/เสน่ห์แห่งเมืองโบราณฮอยอัน/185587/








ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น