เมืองโบราณฮอยอัน
(HOI AN ANCIENT TOWN)
สวัสดีค่ะ
บล็อกนี้ก็เป็นบล็อกที่สามแล้วหลังจากที่เราได้ทำการเปิดบล็อกมา
ในวันนี้เราจะมาพูดถึง แหล่งศิลปะ โบราณคดี เอเชียอาคเนย์ในประเทศเวียดนาม
ที่เก่าที่เดิมที่เราเคยนำเสนอไปในบล็อกที่หนึ่ง แต่เราจะเปลี่ยนสถานที่ใหม่จากหมู่โบราณสถานเมืองเว้
มาเป็นเมืองโบราณฮอยอันที่มีความสวยงามไม่แพ้กัน
ความเป็นมา
ในสมัยของอาณาจักรจามปา
บริเวณนี้เคยเป็นเมืองท่าบนปากแม่น้ำทูโบน ซึ่งมีชื่อว่า ไฮโฟ
โดยเป็นศูนย์กลางทางการค้าในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 16-17
มีชาวต่างชาติมาตั้งถิ่นฐานและค้าขายในเมืองนี้เป็นจำนวนมาก ทั้งชาวจีน ญี่ปุ่น
ดัตช์ และอินเดีย
เดิมทีเมืองนี้ถูกแบ่งออกเป็นสองฝั่งโดยมีคลองสายหนึ่งคั่นอยู่กลางเมือง
มีสะพานญี่ปุ่นทอดข้ามคลองเพื่อกั้นแบ่งเขตชุมชนของชาวญี่ปุ่นที่อีกฝั่งหนึ่งของคลอง
ตัวสะพานสร้างโดยชาวญี่ปุ่น มีลักษณะสถาปัตยกรรมเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว เมืองโบราณฮอยอันตั้งอยู่ที่ประเทศเวียดนาม
เมืองนี้ถือว่าเป็นตัวอย่างของเมืองท่าในเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ ที่สร้างตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่
๑๕-๑๙ ซึ่งเมืองนี้ได้รับการอนุรักษ์เป็นอย่างดี การวางผังถนนและอาคารแต่ละอาคารสะท้อนให้เห็นถึงอิทธิพลของพื้นเมืองและต่างประเทศเป็นอย่างดี
ซึ่งได้ผสมผสานกันไว้ได้อย่างมีเอกลักษณ์
ในสมัยต้นกรุงศรีอยุธยา
ศตวรรษที่ 19
ชื่อของฮอยอันได้รับการบันทึกลงในการเดินเรือของชาติตะวันตกในชื่อ ไฟโฟ หรือ ไฮโป
และมีชาวต่างชาติเดินเรือเข้ามามากมาย
จนฮอยอันกลายเป็นเมืองท่าที่สำคัญแห่งหนึ่งของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
และเป็นศูนย์กลางการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมระหว่างตะวันออกและตะวันตก
จนเข้าสู่ราวครึ่งหลังของศตวรรษที่ 19 เมืองแห่งนี้ก็โดนเผาราบคาบจากการสู้รบช่วงกบฏไตเซินเหวียนอัน
ภายหลังเมื่อเข้าสู่ยุคเริ่มต้นราชวงศ์เหวียน เมืองฮอยอันก็ได้รับการสร้างใหม่
ซึ่งเป็นต้นแบบของอาคารบ้านเรือนอายุสองร้อยกว่าปีอย่างที่เห็นในปัจจุบัน
เมื่อเข้าสู่ปลายศตวรรษที่
19 แม่น้ำทูโบนเริ่มตื้นเขิน เนื่องจากตะกอนโคลนเลนสะสมจนไม่อาจนำเรือใหญ่เข้ามาได้
เมืองดานังจึงถูกสร้างขึ้นมาเป็นเมืองท่าแห่งใหม่แทนที่ฮอยอัน
นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาเมืองฮอยอันก็เริ่มลางเลือนไปตามกาลเวลา จนถึงปี พ.ศ. 2459 เส้นทางรถไฟระหว่างฮอยอันและดานังได้รับความเสียหายจากพายุและไม่ได้รับการซ่อมแซมให้ดีดังเดิม
เมืองแห่งการค้าที่สำคัญซึ่งเคยต้อนรับชาวต่างชาติจึงยุบลง
ปี
พ.ศ. 2542 องค์กานยูเนสโกก็ได้ประกาศให้ฮอยอันเป็นเมืองมรดกโลกทางวัฒนธรรม
เพราะความงดงามและเก่าแก่ของบ้านเมือง
รวมทั้งเอกลักษณ์อันโดดเด่นที่ยังคงสืบทอดมาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งนั่นทำให้ผู้คนหลั่งไหลเข้ามายังเมืองแห่งนี้
ประดุจน้ำในแม่น้ำทูโบนที่ไหลหล่อเลี้ยงผู้คนไม่เคยเปลี่ยนแปลง
ที่ตั้ง
เมืองฮอยอัน
อยู่ห่างจากเมืองท่าดานังทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ระยะทางประมาณ 30 กิโลเมตร
ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำทูโบน ห่างจากชายฝั่งทะเลเข้ามาตอนในระยะทางไม่กี่กิโลเมตร
เมืองเก่าโบราณที่เต็มไปด้วยเสน่ห์แห่งนี้
ครั้งหนึ่งในอดีตเคยเป็นเมืองที่มีความเจริญรุ่งเรืองมาก
ในบริเวณที่เคยเป็นไดเวียดกลางภายใต้การปกครองของขุนนางเหวียน
และปรากฏอยู่ในแวดวงของนักเดินทางตะวันตกในศตวรรษที่ 17 และ 18
แรกเริ่มเมืองฮอยอันเคยเป็นเมืองท่าชายทะเลในอาณาจักรจามปา เรียกกันในชื่อว่า
ได๋เจียน โดยมีเมืองหลวงอยู่ที่ตราเกียว
และมีศานสถานอันศักดิ์สิทธิ์อยู่ที่หมี่เซิน ซึ่งอยู่ไม่ห่างจากฮอยอันมากนัก
ฮอยอัน
เป็นเมืองที่ถูกแบ่งออกเป็นสองฝั่งโดยมีคลองคั่นกลาง
มีสะพานญี่ปุ่นทอดข้ามคลองเพื่อกั้นแบ่งเขตชุมชนของชาวญี่ปุ่นที่อีกฝั่งหนึ่งของคลองจากชุมชนจีน
สะพานดังกล่าวสร้างโดยชาวญี่ปุ่น มีลักษณะสถาปัตยกรรมเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว
โดยมีหลังคาเหนือสะพาน นอกจากนี้ ยังมีวัดญี่ปุ่นตั้งอยู่ด้านขวามือของตัวสะพาน
ทำให้สะพานดังกล่าว มีชื่ออีกชื่อหนึ่งว่าสะพานวัด หรือ Pagoda
Bridge
สะพานวัดหรือสะพานญี่ปุ่น
ความสำคัญ
เมืองโบราณฮอยอันเป็นเมืองขนาดเล็ก
ที่เป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยว มีชื่อเสียงในด้านของเมืองมรดกโลกที่ยังมีลมหายใจ
เสน่ห์ของเมืองนี้คือตึกเก่าสีเหลืองสวยสไตล์โคโลเนียล
ที่อนุรักษ์เอาไว้ให้คงเอกลักษณ์เอาไว้ วิถีชีวิตที่เรียบง่ายและสวยงามของชาวเมืองฮอยอัน
ตลอดจนสิ่งอำนวยความสะดวกที่มีพร้อมสรรพสำหรับนักท่องเที่ยว
นอกจากนี้เมืองโบราณฮอยอันยังเป็นเมืองที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกที่สำคัญอีกแห่งหนึ่ง
ที่มีอิทธิพลช่วยผลักดันให้เกิดการพัฒนาในด้านการออกแบบทางสถาปัตยกรรม อนุสรณ์สถาน
ประติมากรรม สวน และภูมิทัศน์ ตลอดจนการพัฒนาศิลปกรรมที่เกี่ยวข้องหรือการพัฒนาการตั้งถิ่นฐานของมนุษย์ซึ่งได้เกิดขึ้นในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง
หรือบนพื้นที่ใดๆ ของโลกซึ่งทรงไว้ซึ่งวัฒนธรรม
เมืองโบราณฮอยอัน
มีความโดดเด่นในด้านวัฒนธรรมมนุษย์ ขนบธรรมเนียมประเพณีแห่งสถาปัตยกรรม
วิธีการก่อสร้าง หรือการตั้งถิ่นฐานของมนุษย์
ซึ่งเสื่อมสลายได้ง่ายจากผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงทางสังคมและวัฒนธรรมตามกาลเวลา
สถานที่สำคัญ
1. สะพานญี่ปุ่น (Japanese Covered Bridge)
สะพานญี่ปุ่น
เป็นสัญลักษณ์อย่างหนึ่งของเมืองฮอยอันได้รับการก่อสร้างโดยชุมชนชาวญี่ปุ่นเมื่อ 400
กว่าปีที่แล้ว รูปทรงโค้งของสะพานและหลังคามุงกระเบื้องสีเขียวและเหลืองเป็นคลื่น
ตรงกลางสะพานมีเจดีย์ทรงจัตุรัสที่สร้างอุทิศให้แก่ดั๊กเดและตรันหวู
ก่อนเดินข้ามสะพานด้านซ้ายมือจะมีรูปปั้นสุนัขกำลังนั่ง
และเมื่อข้ามไปแล้วก็จะเจอกับลิงอีกตัว นับเป็นสิ่งที่ช่างสมัยก่อนแสดงให้เห็นถึงระยะเวลาในการก่อสร้าง
สะพานแห่งนี้ เมื่อข้ามสะพานมายังอีกฟากหนึ่งของเมือง
คุณจะพบเห็นบ้านเรือนเก่าสไตล์ญี่ปุ่นแท้ๆ ตลอดจนร้านสไตล์อาร์ตแกลอรี่
ริมถนนคนเดินสองฟากฝั่งถนนให้คุณได้เลือกซื้อเลือกชม
2. สมาคมฟุกเกี๋ยน
(Phouc Kien Assembly Hall)
ถนนสายตรันฝู
นอกจากจะเป็นศูนย์กลางของการเที่ยวชมเมืองโบราณฮอยอันแล้ว
ยังเป็นศูนย์รวมของชาวจีนที่อพยพเข้ามาในช่วงปี พ.ศ.2388-2428 จะเห็นได้จากบ้านเก่าแก่ประจำตระกูลกว่า 20 หลัง
ตลอดจนจั่วฟุกเกี๋ยนที่สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2335
ซึ่งถือเป็นสามคมชาวจีนที่ใหญ่และเก่าแก่ที่สุดของเมืองฮอยอัน
ใช้สำหรับเป็นที่พบปะของคนหลายรุ่นที่อพยพมาจากฟุกเกี๋ยนที่มีแซ่เดียวกัน
และยังใช้เป็นที่ระลึกถึงถิ่นกำเนิดและบูชาบรรพบุรุษของตน และภายในยังเป็นที่ตั้งของวัดที่สร้างขึ้น
เพื่ออุทิศให้กับลัทธิของพระนางเทียนเห่า มีจุดเด่นอยู่ที่งานไม้แกะสลัก
ลวดลายสวยงามน่าชมและหากคุณไม่เร่งรีบไปไหน
สองฟากฝั่งของถนนตรันฝูยังเต็มไปด้วยร้านขายสินค้าทำมือให้นักท่องเที่ยวได้เลือกซื้อกลับไปเป็นของที่ระลึก
ทั้งงานแกะสลักไม้ โคมไฟจากผ้าไหมหลากสี ภาพวาดที่สะท้อนวิถีชีวิตที่เรียบง่ายของชาวฮอยอัน
ตลอดจนร้านอาหารหลากสัญชาติ หลายบรรยากาศ
3. บ้านเลขที่
101 (Old House No.101)
เป็นบ้านประจำตระกูลเก่าแก่ที่ยังคงงดงาม
มีให้เลือกชมอยู่หลายหลัง บนถนนสายนี้มีบ้านประจำตระกูลเก่าแก่ให้เลือกเข้าชมทั้งหมด
3
หลังด้วยกัน เริ่มจาก บ้านเลขที่ 22 บ้านเก่า 2
ชั้น ของชาวจีนที่เข้ามาติดต่อเพื่อซื้อขายอบเชย สร้างมาเกือบ 90
ปีแล้ว ภายในแบ่งเป็น 2 ช่วง คือ
บ้านไม้และบ้านปูนเก่าสร้างอย่างประณีต เป็นครอบครัวใหญ่ที่เปิดให้เข้าเยี่ยมชมได้
และที่คุณพลาดไม่ได้คือ บ้านเลขที่ 101 เป็นบ้านของจีนในตระกูล
Tan Ky นับเป็นบ้านไม้ที่เก่าแก่และสวยงามที่สุดของเมืองฮอยอัน
สร้างขึ้นมาเมื่อ 75 ปีที่แล้ว และอยู่กันมา 5 ชั่วอายุคน ภายในแบ่งเป็นสัดส่วนอย่างลงตัว ตั้งแต่ ห้องสมุดสมัยก่อน
ห้องรับแขก และห้องครัว และบ้านเลขที่ 77
4. หุบเขาหมี่เซิน
มรดกโลก
ที่ตั้ง
:
อยู่ห่างจากเมืองดานังไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ระยะทางประมาณ 70 กิโลเมตร
และอยู่ห่างจากเมืองฮอยอันมาทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ระยะทางประมาณ 50 กิโลเมตร
การเดินทาง
:
ท่านสามารถหาซื้อแพกเกจทัวร์ได้จากบริษัทเมืองดานังหรือฮอยอันจะสะดวกกว่าเดินทางไปด้วยตัวเอง
ราคาไป-กลับ ประมาณ 4 US$ แต่ถ้าเลือกนั่งเรือกลับก็ต้องเพิ่มเงินอีกนิดหน่อย
– นักโบราณคดีเชื่อว่า
วัฒนธรรมของจาม
มีพื้นฐานมาจากวัฒนธรรมซาหินห์ของคนยุคก่อนประวัติศาสตร์
ในแผ่นดินอันนัมและผสานเข้ากับวัฒนธรรมอินเดียที่ขึ้นฝั่งมาทำการค้าเมื่อครั้งอดีต
– วัฒนธรรมจาม
มีความเจริญรุ่งเรืองยาวนานถึงพันกว่าปี มีศูนย์กลางอยู่ที่หุบเขาหมี่เซิน
โดยเริ่มต้นจากพระเจ้าภัทรวรมันที่ 1 ในคริสต์ศตวรรษที่ 4
อาณาจักรจามรุ่งเรืองครอบครองอาณาเขตตั้งแต่ทางตอนใต้ของฮานอยไปจนถึงเวียดนามใต้และภาคตะวันออกของกัมพูชา
ตั้งแต่เริ่มต้นจนสิ้นสุดอาณาจักรจามปา มีกษัตริย์ปกครอง 78 พระองค์ ใน 14 ราชวงศ์
ก่อนเข้าสวามิภักดิ์กับอาณาจักรไดเวียดเมื่อคริสต์ศตวรรษที่ 15
และถือเป็นอันสิ้นสุดลงของอาณาจักรแห่งความยิ่งใหญ่
– ร่องรอยแห่งอารยธรรมของอาณาจักรจามปา
มีอยู่ทั่วไปในอุษาคเนย์ ซึ่งได้สร้างปราสาทเพื่อถวายพระศิวะมากมาย
เนื่องจากชนชาติดังกล่าวนับถือศาสนาฮินดูอย่างเคร่งครัด
โดยเฉพาะภายในบริเวณหมี่เซินมีศาสนสถานที่สร้างด้วยอิฐกว่า 70 แห่ง
แต่ที่โดดเด่นสุด คือ ปราสาททับจั่ว แต่ภายหลังที่เกิดสงครามเวียดนาม
โบราณสถานจำนวนมากถูกทำลายลงจากการทิ้งระเบิดของเครื่องบิน B52
ของอเมริกา แต่อย่างไรก็ดี
โบราณสถานที่หลงเหลืออยู่ในปัจจุบันก็ยังงดงามควรค่าแก่การเยี่ยมชม เพราะนับเป็นโบราณสถานในศาสนาฮินดูที่เก่าแก่และสมบูรณ์ที่สุดในแหลมอินโดจีน
ที่สามารถสะท้อนความรุ่งเรืองแห่งอารยธรรมของจามได้ดีที่สุด
จนได้รับเลือกจากยูเนสโกให้เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมในปี พ.ศ. 2542
5. หาดเกาได๋
หรือ หาดจีน (Cao Dai Beach)
–นอกจากบ้านเรือนสวยสไตล์โคโลเนียลที่มีให้เยี่ยมชมย่านเก่าใจกลางเมืองฮอยอันแล้ว
ถัดมาไม่ไกลจากตัวเมืองฝั่งตรงขามกับแม่น้ำทูโบน คุณจะได้พบกับชายหาดสวยชื่อ
เกาได๋ ที่ทอดยาวต่อเนื่องมาจากเมืองดานัง หรือที่ชาวฮอยอันเรียกว่า หาดจีน
เป็นชายหาดที่มีเนื้อทรายละเอียด น้ำทะเลใสสะอาด บรรยากาศเงียบสงบ
มีกิจกรรมทางน้ำมากมายให้เลือกสรร เหมาะทั้งลงเล่นน้ำและชมวิวทิวทัศน์
บริเวณฝั่งตรงข้ามชายหาดเต็มไปด้วยโรงแรมระดับดีให้คุณได้เลือกพักชมวิวทะเล
ตลอดจนร้านอาหารให้เลือกลิ้มรส
นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่หลังจากเที่ยวชมเมืองเก่าฮอยอันจนครบแล้ว ก็มักเปลี่ยนบรรยากาศมาพักผ่อนหย่อนใจที่หาดทรายสวยแห่งนี้
6. ศูนย์วัฒนธรรมและหัตถกรรม
(Handicraft
workshop and traditional music shop)
สิ่งที่โดดเด่นที่สุดภายในศูนย์วัฒนธรรมและหัตถกรรมแห่งนี้คือ
โรงละครหลังเล็ก ที่จัดการแสดงพื้นเมืองที่หาดูได้ยากของชาวเวียดนาม ตั้งแต่การจับปลา
การเกี่ยวข้าว ท่ามกลางศิลปินนักร้อง นักดนตรี ที่เป็นเอกลักษณ์ของชาวเวียดนาม รอบจัดแสดงคือ
วันอังคาร-อาทิตย์ เวลา 10.00 น. หรือ เวลา 15.00 น. มีการแสดง 2 รอบต่อ 1
วันเท่านั้น
นอกจากนี้ยังเป็นศูนย์รวมงานฝีมือของเมืองฮอยอัน
ตั้งแต่งานแกะสลักไม้ งานแกะสลักหินอ่อน ที่ยินดีให้คุณได้ชมในทุกขั้นตอนของการผลิต
และสมารถเลือกซื้อกลับไปเป็นชองที่ระลึกได้ในราคาย่อมเยา
7. พิพิธภัณฑ์เซรามิก
(Museu
of Trading Ceramics)
ที่ตั้ง
อยู่บนถนนสายตรันฝู ตรงบ้านเลขที่ 80 ภายในบ้าน 2 ชั้นหลังนี้
สร้างจากไม้เนื้อแข็งที่มีอายุเก่าแก่กว่า 80 ปี
โดยบรรพบุรุษดั้งเดิมเป็นชาวจีนฟุกเกี๋ยนที่เข้ามาติดต่อซื้อขายยาสมุนไพร
และไม่ได้กลับไปยังถิ่นฐานเดิม
ปัจจุบันจึงดัดแปลงบ้านไม้เก่าแก่หลังนี้ให้เป็นพิพิธภัณฑ์เซรามิกที่จัดแสดงโบราณวัตถุเอาไว้อย่างเป็นหมวดหมู่ตั้งแต่
ถ้วย ขาม เครื่องใช้ไม้สอยสมัยโบราณ รวมทั้งชามสังคโลกของไทย
สะท้อนให้เห็นถึงความเป็นมาของเมืองมรดกโลกริมแม่น้ำทูโบนที่เต็มเปี่ยวด้วยเสน่ห์แห่งนี้
นอกจากจะได้ชมถ้วยชามเซรามิกเก่าแก่แล้ว จากบริเวณระเบียงบ้านชั้น 2 ยังสามารถมองลงมายังถนนหน้าบ้าน
เพื่อชมเมืองฮอยอันในมุมสูงได้อีกด้วย
8. แม่น้ำทูโบน
(Thu Bon River)
แม่น้ำทูโบนเป็นแม่น้ำสายที่มีความสำคัญตั้งแต่สมัยโบราณ
ก่อนที่ฮอยกันยังเป็นเมืองท่าสำคัญที่สุดแห่งหนึ่งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
มีชาวต่างชาติจำนวนมากล่องเรือเข้ามาททำการค้าขายแลกเปลี่ยนสินค้าที่เมืองแห่งนี้
ทำให้ฮอยอันเป็นเสมือนศูนย์กลางของการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมระหว่างตะวันออกกับตะวันตก
แต่ภายหลังที่แม่น้ำเริ่มตื้นเขิน เรือเดินสินค้าไม่สามารถมาจอดเทียบท่าได้
เมืองดานังจึงถูกสร้างขึ้นมาแทนที่ฮอยอัน
แต่สายน้ำทูโบนแห่งนี้ยังคงทำหน้าที่หลักไหลหล่อเลี้ยงชาวฮอยอันอยู่เรื่อยมา เห็นได้จากชาวบ้านที่ยังคงออกหาปลาในแม่น้ำ
และใช้แม่น้ำสายนี้เป็นเส้นทางสัญจรไปมาหาสู่กันระหว่างสองฟากฝั่งน้ำ
การได้มาเดินเที่ยวชมริมแม่น้ำทูโบน
จึงเต็มแด้วยเสน่ห์ของกาลเวลาที่เชื่อมต่อระหว่างอดีตและปัจจุบันเข้าไว้ด้วยกัน
ตั้งแต่บ้านเรือนสไตล์โคโลเนียลมรดกตกทอดริมฝั่งแม่น้ำทูโบน
หมู่บ้านชาวประมงที่หาดูได้ยาก ศิลปะที่ผสมผสานที่แสดงผลงานศิลปะไว้ภายในเรือ
ตลอดจนร้านอาหารสองบรรยากาศที่มีให้คุณเลือกสรรทั้งร้านขายน้ำผลไม้แบบเรียบง่ายริมฝั่งแม่น้ำ
หรือร้านอาหารสมัยใหม่หลายสัญชาติที่อยู่ฝั่งตรงกันข้าม และถ้าคุณต้องการสัมผัสมนต์เสน่ห์ของสายน้ำทูโบนอบ่างใกล้ชิดแล้ว
ก็มีบริการล่องเรือชมวิวทิวทัศน์และวิถีริมฝั่งน้ำให้คุณเลือกใช้บริการเช่นกัน
การเดินทางภายในตัวเมืองฮอยอัน
ทางบก
: ด้วยความที่ฮอยอันเป็นเมืองเล็กๆ
ถนนเส้นหลักก็มีเพียงไม่กี่เส้น สถานที่ท่องเที่ยวแต่ละแห่งก็อยู่ไม่ไกลกัน
การเดินเท้าเที่ยวชมเมืองจึงเป็นวิธีหนึ่งที่สะดวก เพราะคุณสามารถหยุดแวะชมสถานที่
หรือเลือกซื้อสินค้าที่ระลึกได้อย่างสะดวกสบาย
ใช้เวลาเพียงวันเดียวก็เที่ยวครบทั่วเมืองเก่าแล้ว
หรือจะเลือกใช้บริการจักรยานที่มีให้เช่า ก็ทำได้เช่นกัน
แต่คุณอาจต้องใช้ความระมัดระวังสักหน่อย เพราะถนนแต่ละเส้นค่อนข้างเล็ก
ผู้คนทั้งนักท่องเที่ยวและชาวเมืองฮอยอันก็มีจำนวนมาก
ส่วนผู้ที่ต้องการความสะดวกสบายและประหยัดเวลาในการเที่ยวชม
แนะนำให้ใช้บริการสามล้อถีบที่มีให้บริการอยู่ทั่วทั้งเมือง ราคาก็ตามแต่ตกลงกันครับ
ทางน้ำ
: หลังจากที่เที่ยวตัวเมืองฮอยอันจนครบแล้ว
การเปลี่ยนบรรยากาศมานั่งล่องเรือแม่น้ำทูโบน
ก็เป็นอีกหนึ่งโปรแกรมท่องเที่ยวที่น่าสนใจ
มีให้เลือกทั้งแบบล่องเรือชมธรรมชาติสองฟากฝั่ง โดยใช้เวลาล่องไปกลับประมาณ 1
ชั่วโมง ราคาประมาณ 2 ดอลล่าต่อคน แต่สำหรับผู้ที่มาเป็นกลุ่มตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป
แนะนำให้เช่าเหมาลำ เพราะคุณสามารถต่อรองกับคนขับให้พาไปเยี่ยมชมหมู่บ้านหัตถกรรม
หมู่บ้านชาวประมง ตลอดจนวิถีริมฝั่งน้ำที่หาดูได้ยาก
โดยเรือจะมีให้บริการอยู่บริเวณท่าเรือข้ามฟากใกล้ๆกับตลาดเก่าในเมืองฮอยอัน
สรุป
เมืองโบราณฮอยอันเป็นเมืองที่มีความสำคัญอีกเมืองหนึ่งของเวียดนามและของโลก
เป็นเมืองที่ถือว่ามีอิทธิพลในด้านการออกแบบ สถาปัตยกรรม ประติมากรรม
หรือทางด้านศิลปะและสถานที่ต่าง ๆ มีความคงไว้ซึ่งวัฒนธรรม ขนบธรรมเนียมประเพณี
ที่เป็นเอกลักษณ์ที่ไม่ได้ศูนย์หายไปตามการเวลา
เป็นสถานที่ที่เหมาะแก่การไปเยี่ยมชมและศึกษาหาความรู้เป็นอย่างมาก
รูปสถานที่ต่าง
ๆ
.............................................................................................
บรรณานุกรม
มหานครอาเซียน.
(ม.ป.ป.). เมืองโบราณฮอยอัน [ระบบออนไลน์].
สืบค้นเมื่อ 16 กันยายน 2561 สืบค้นจาก
http://www.uasean.com/kerobow01/262
ลำเจียก สองสีดา. (ม.ป.ป.). มรดกโลกในเวียดนาม 2 :
เมืองโบราณฮอยอัน [ระบบออนไลน์]. สืบค้นเมื่อ 16
กันยายน 2561 สืบค้นจาก http://aseannotes.blogspot.com/2014/07/2.html
วิกิพีเดีย
สารานุกรมเสรี. (ม.ป.ป.). ฮอยอัน [ระบบออนไลน์].
สืบค้นเมื่อ 16 กันยายน 2561 สืบค้นจาก
http://th.wikipedia.org/wiki/
โอเชี่ยนสไมล์ทัวร์. (ม.ป.ป.). ข้อมูลท่องเที่ยวประเทศเวียดนาม [ระบบออนไลน์]. สืบค้นเมื่อ 16 กันยายน
2561 สืบค้นจาก http://www.oceansmile.com/Vietnam/HoiAn.htm
ladybug. (2557). แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวในเมืองฮอยอัน เวียดนาม. [ระบบออนไลน์].
สืบค้นเมื่อ 16 กันยายน 2561 สืบค้นจาก
https://travel.mthai.com/world-travel/95329.html
Thaiza. (2553). “เสน่ห์แห่งเมืองโบราณฮอยอัน” [ระบบออนไลน์]. สืบค้นเมื่อ 16 กันยายน 2561 สืบค้นจาก http://travel.thaiza.com/เสน่ห์แห่งเมืองโบราณฮอยอัน/185587/